การดูแลรักษาตนเอง..หลังตรวจพบว่าติดเชื้อเอชไอวี

การดูแลรักษาตนเอง..หลังตรวจพบว่าติดเชื้อเอชไอวี

การติดเชื้อ เอชไอวี (HIV) ทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันบกพร่องจนไม่สามารถต่อสู้กำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งนำไปสู่การเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่ทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีจึงควรทำความเข้าใจภาวะของตน และศึกษาวิธีการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อลุกลามไปสู่ภาวะเอดส์ ที่เป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

 

การดูแลสุขภาพกาย

  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ประกอบด้วยผลไม้ ผัก ธัญพืชและโปรตีนที่มีประโยชน์ 
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น และสุขภาพโดยรวมได้
  • พักผ่อนให้เพียงพอ สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ควรพักผ่อนอย่างน้อย วันละ 7-8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดร่วมกันกับผู้อื่น มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย 
  • หลีกเลี่ยงสารเสพติดและงดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิด เพราะสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

การดูแลสุขภาพจิต

เป็นเรื่องปกติที่ผู้ป่วยจะรู้สึกเครียด ซึมเศร้า และวิตกกังวลเป็นอย่างมาก หลังจากทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งผู้ป่วยอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา รวมถึงเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยให้คำปรึกษาต่าง ๆ เพื่อรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ คลายความกังวล นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจดูแลสุขภาพจิตได้โดยการทำจิตใจให้สงบ เช่น การนั่งสมาธิ หรือทำสมาธิจินตนาการถึงสิ่งที่ทำให้รู้สึกสงบ สบาย จนลืมเรื่องกังวลใจ เป็นต้น

 

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส

ผู้ป่วยควรเริ่มรับการรักษาทันที เมื่อทราบผลว่าตนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี และควรรับประทาน ยาต้านไวรัส อย่างเคร่งครัด เพราะยาจะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อเอชไอวี ป้องกันระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และลดโอกาสการแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่นได้ และยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสได้อีกด้วยการรักษาด้วยยาต้านไวรัส

ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับการรับประทานยาต้านไวรัส

  • รับประทานยาต้านไวรัสให้ตรงเวลา ทุกวัน
  • เช็คยาต้านไวรัสให้เพียงพอ ต่อการรับประทานทุกวัน
  • แจ้งให้แพทย์ทราบถึงปัญหาที่คุณพบอาทิเช่น ผลข้างเคียงของการรับประทานยา

ขอบคุณข้อมูล : ananhosp

อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ในปัจจุบัน เชื้อเอชไอวียังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาได้ถูกพัฒนาขึ้นมาก จนสามารถทำให้ผู้ป่วย ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีได้อย่างใกล้เคียงกับคนปกติทั่วไป โดยจะต้องรับประทานยาต้านไวรัสให้ตรงเวลา และหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตัวเองอยู่เสมอ

Search