HIV ไม่น่ากลัว แต่ต้องตระหนักและป้องกัน

การทำให้คนที่มีความเสี่ยงทุกคนเข้าถึงการตรวจเลือด และหาเชื้อเอชไอวีได้เร็ว เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่งเสริมการรักษาได้เร็ว ช่วยให้ผู้ติดเชื้อใช้ชีวิตและอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ทีมนักวิจัยจาก Operation BIM กล่าวว่า แต่เราไม่ควรลืมความใส่ใจเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะเซ็กซ์กับมนุษย์คือของคู่กัน ในเดือนธันวาคมของทุกปี มีวันที่ 1 เป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) ซึ่งเมื่อ 1 ธ.ค. ปี 2561 ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคกำหนดคำขวัญวันเอดส์โลก คือ “Know Your Status : ตรวจเร็ว รักษาเร็ว ยุติเอดส์” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้รู้และเข้าใจในเรื่องของเอชไอวีและเอดส์

ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าวต่อว่า นานาประเทศมีเป้าหมายมุ่งยุติปัญหาเอดส์ร่วมกันภายในปี 2573 ซึ่งมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ให้เหลือไม่เกินปีละ 1,000 คน ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ให้ไม่เกินปีละ 4,000 คน ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาพ ลงจากเดิมร้อยละ 90

รายงานจาก กรมควบคุมโรค ระบุว่า การทำให้คนที่มีความเสี่ยงทุกคนเข้าถึงการตรวจเอชไอวีได้เร็ว เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่งเสริมการรักษาได้เร็ว ช่วยให้ผู้ติดเชื้อใช้ชีวิตและอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ แม้ว่าผู้คนจะได้รับการศึกษา การสอน และการเตือนอยู่เสมอๆ ในทุกช่องทางสื่อสาร ทว่า เราต่างยังคงขาดความตระหนัก มาร่วมทบทวนว่า เอชไอวี และเอดส์นั้น ติดต่อได้จากทางใดบ้าง ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าวอีกว่า โอกาสที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุด ได้แก่

  1. การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักกับผู้ติดเชื้อโดยไม่ป้องกัน หรือไม่ได้รับประทานยาต้านเชื้อเอชไอวี หรือยาก่อนเสี่ยง PrEP
  2. การใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์เตรียมฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ส่วนสาเหตุที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวี

  1. การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ ระหว่างการคลอด หรือผ่านการให้นมบุตร โดยจะมีความเสี่ยงสูงหากมารดาไม่ได้รับประทานยาสำหรับรักษาหรือต้านเชื้อเอชไอวี
  2. ผู้ที่ทำงานกับอุปกรณ์ที่อาจปนเปื้อนเชื้อเอชไอวี เช่น เข็มฉีดยา หรือของมีคม

ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวี แม้จะน้อย แต่ก็ยังรับเชื้อได้ คือ

  1. การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
  2. ได้รับเลือด หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ จากผู้ติดเชื้อ
  3. การถูกกัดที่รุนแรงจนมีเลือดไหลหรือแผลฉีกขาดโดยผู้ติดเชื้อ
  4. การสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวีกับบริเวณที่เป็นแผลหรือเยื่อเมือกบุผิว
  5. การจูบแบบเปิดปาก หากทั้งสองฝ่ายมีแผลหรือมีเลือดออกตามไรฟัน และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อเอชไอวี อีกฝ่ายอาจติดเชื้อได้ ทั้งนี้ เชื้อเอชไอวีนั้นไม่ติดต่อกันผ่านน้ำลาย

“ข้อเท็จจริงข้างต้น ไม่ได้ต้องการให้ใครกลัว กังวล หรือเป็นทุกข์กับการใช้ชีวิต แต่คุณต้องรอบคอบ ระแวดระวัง และรู้จักป้องกันเสมอ ไม่เอาชีวิตและสุขภาพไปเสี่ยงกับเพศสัมพันธ์แบบขาดสติและขาดการป้องกันเด็ดขาด” ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าว

ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าวย้ำว่า ที่สำคัญ จำเป็นต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ แม้ว่าคุณเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่ก็ตาม หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารหลักให้ครบหมู่ และรับประทานอาหารเสริม วิตามิน เกลือแร่ และสารจำเป็นตามความเหมาะสมของร่างกายแต่ละคน

“เอชไอวี ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ที่ต้องทำคือควรตระหนักไว้เสมอ ว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร ไม่ปล่อยให้ความประมาทอยู่เหนือสติ” ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าวปิดท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก: ข่าวสด

Search